RIYA Perfume เพิ่มคุณค่าการบำรุงผิวและเส้นผมให้เป็นมากกว่าน้ำหอม

[Yamachita]

[center][/center]

ขึ้นชื่อว่าน้ำหอม สิ่งแรกที่คิดถึงคือ/ความหอมสดชื่น แต่ RIYA Perfume กลับเพิ่มคุณค่าการบำรุงผิวและเส้นผม หวังเพิ่มค่าให้เป็นมากกว่าน้ำหอม พร้อมพัฒนาน้ำหอมแห้ง สะดวกพกพา ต่อยอดของพรีเมียม พ่วงท้ายของขวัญของฝากโดนใจ เล็งต่อยอดใช้กลิ่นสร้างบรรยากาศตรึงความทรงจำไม่รู้ลืม

จากเจ้าของธุรกิจจิวเวลรีผันตัวเองสู่แวดวงน้ำหอม ที่ “กัลยารัตน์ ศิริจารุวงศ์” เจ้าของธุรกิจน้ำหอมแบรนด์ RIYA บอกว่า มาจากความชอบล้วนๆ แม้ที่ผ่านมาจะทำงานมาหลายด้านทั้งผู้สื่อข่าว จัดออแกไนซ์ และธุรกิจจิวเวลรีที่ปัจจุบันก็ยังทำอยู่ ด้วยเหตุผลที่ว่าหากชอบอะไรจะเข้าไปเรียนรู้เพื่อให้รู้ กำไรที่ได้คือประสบการณ์ที่มีค่ายิ่ง

แต่ในเรื่องน้ำหอมกลับเป็นมากกว่าความชอบ กลายเป็นความรักที่จะเรียนรู้แบบเจาะลึกในทุกรายละเอียด ลงทุนเดินทางไปประเทศอังกฤษเพื่อศึกษาด้านนี้โดยตรงจากอาจารย์นักปรุงน้ำหอมชาวอังกฤษ Stephen V. Dowthwaite ผู้ศึกษาศาสตร์น้ำหอมและอยู่ในวงการน้ำหอมมานานหลายสิบปีตั้งแต่ ค.ศ. 1971 ทำให้รู้ว่าวงการน้ำหอมก็ไม่ต่างจากงานจิวเวลรีมากนัก เพราะแหล่งที่มาก็มาจากธรรมชาติ คือ ดอกไม้ และต้นไม้

[center][/center]

“โดยส่วนตัวเราเป็นคนชอบน้ำหอมอยู่แล้ว เพราะไม่ว่าจะเดินทางไปประเทศใดในโลกก็มักซื้อน้ำหอมกลับมาเป็นที่ระลึก ความสนุกอยู่ที่การได้สูดกลิ่นที่หลากหลายและแตกต่างกันไปตามแต่ละประเทศ แต่เมื่อได้ศึกษาอย่างจริงจังก็รู้สึกชอบวงการนี้มากขึ้น จึงไปเรียนคอร์สสั้นๆ ที่ประเทศอังกฤษ ที่นอกจากจะได้ความรู้พื้นฐานแล้ว ยังทำให้เราได้รับข่าวสารอัปเดตในวงการน้ำหอมจากทั่วโลกอีกด้วย”

ดังนั้น เมื่อกัลยารัตน์ตัดสินใจดำเนินธุรกิจด้านน้ำหอม การสร้างความแตกต่างในแง่ผลิตภัณฑ์ที่มีอยู่ตามท้องตลาดจึงเป็นเรื่องสำคัญ เขาเติมคุณค่าน้ำหอมด้วยวิตามินอี น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็นเพิ่มความชุ่มชื่นแก่ผิวพรรณและความหอมควบคู่กันไป จากผลิตภัณฑ์น้ำหอมชนิดน้ำหอมบำรุงมือและเล็บ น้ำหอมบำรุงเส้นผมผสมมอยเจอร์ไรเซอร์ ซึ่งทุกผลิตภัณฑ์น้ำหอม RIYA จะปราศจากแอลกอฮอล์ที่อาจก่อให้เกิดอาการแพ้ได้

[center][/center]

ล่าสุดเปิดตัวน้ำหอมแห้ง (Solid Perfume) ที่ภายนอกดูคล้ายลิปบาล์ม แต่เป็นน้ำหอมที่สามารถพกพาไปได้ทุกที่ คงความหอมได้ประมาณ 6-7 ชั่วโมง (ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ) ปัจจุบันน้ำหอม RIYA มี 5 กลิ่นให้ลูกค้าเลือกสรรตามใจชอบ แต่หากลูกค้าต้องการกลิ่นเฉพาะทางเจ้าของธุรกิจก็สามารถทำให้ได้ ซึ่งน้ำหอมแห้งนั้นมีมาตั้งแต่สมัยโบราณ ได้นำมาย้อนยุคอีกครั้งในอารมณ์วินเทจที่จะใส่ในตลับโลหะเล็กๆ และจะให้กลิ่นที่แตกต่างจากน้ำหอมสเปรย์ หรือ Body Mist โดยกลิ่นจะระเหยตามอุณหภูมิร่างกายและไม่มีกลิ่นฉุนจากแอลกอฮอล์ ซึ่งลักษณะพิเศษของ Riya Solid Perfume คือจะมีกลิ่นที่ชัดเจนและไม่อ่อนเกินไปสามารถผสมกลิ่นกันใช้ได้ โดยเฉพาะกลิ่นกุหลาบสามารถใช้ได้กับกลิ่นอื่นจะยิ่งทำให้กลิ่นติดทนนานขึ้น และเป็นกลิ่นดอกไม้หลากหลายชนิดปรุงเป็นกลิ่นที่มีคาแรกเตอร์ของผู้หญิง

นอกจากความโดดเด่นในเรื่องของการเป็นมากกว่าน้ำหอมแล้ว กัลยารัตน์ยังออกแบบแพกเกจจิ้งให้ดึงดูดลูกค้าไม่แพ้กันกับสไตล์วิลเทจ (Vintage) ที่ถูกใจหญิงสาว เน้นภาพวาดสีน้ำมันรูปหญิงสาวต่างประเทศจากงานระบายสีน้ำของกัลยารัตน์เอง เหมาะสำหรับทำเป็นสินค้าพรีเมียม ของชำร่วย และของขวัญแด่คนพิเศษ โดยราคาเริ่มต้นที่ 220-800 บาท

ล่าสุดเปิดตัวสินค้าใหม่ Riya Perfume Oil ซึ่งจะเน้นพกพาง่ายในการเดินทาง ในบรรจุภัณฑ์ชนิดขวดทองหรูสไตล์ย้อนยุคพกพาง่ายเช่นเดียวกับ Riya Solid Perfume โดยจะมีส่วนผสมของน้ำมันจากสมุนไพรถึง 10 ชนิด และกลิ่นดอกไม้ที่ปรุงเข้าด้วยกันอย่างลงตัว เหมาะสำหรับผู้หญิงที่ผิวแพ้ง่าย

ปัจจุบันผลิตภัณฑ์น้ำหอม RIYA มีจำหน่ายที่ดิเอ็มโพเรียม TCDC ชั้น 6, สยามพารากอน ชั้น 4, โรงแรม Intercontinental ใน shop นารายณ์ภัณฑ์, ร้าน Loft ทุกสาขา และตัวแทนจำหน่าย โดยสามารถดูได้ที่ http://www.riya-k.com/#!outlets และสั่งซื้อออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ www.riya-k.com หรือ FB Page: riyaperfume รวมถึงมีการส่งออกไปต่างประเทศ เช่น สิงคโปร์ ประมาณ 20% ส่วนหน้าร้านเล็งทำเลในต่างประเทศแถบเอเชียก่อน เช่น สิงคโปร์ ฮ่องกง ไต้หวัน และประเทศตะวันออกกลางอย่างดูไบ ซึ่งตลาดน้ำหอมในประเทศเหล่านี้มีอัตราการเติบโตขึ้นทุกปี

อนาคตกัลยารัตน์จะต่อยอดธุรกิจน้ำหอมสู่งานอีเวนต์ โดยเป็นการสร้างกลิ่นตามธีมงานนั้นๆ นำร่องด้วยการร่วมมือกับเพื่อนสนิทที่รับจัดดอกไม้ตามงานอีเวนต์ช่วยขายไอเดียสร้างกลิ่นหอมแห่งความทรงจำ เพราะเชื่อว่าเป็นธุรกิจใหม่ที่คนไทยยังไม่รู้ แต่สำหรับในต่างประเทศเป็นที่นิยมมากในการเนรมิตกลิ่นเฉพาะงานสำคัญๆ ครั้งหนึ่งในชีวิต เนื่องจากกลิ่นมีผลต่อความทรงจำ และเมื่อเรากลับมาได้กลิ่นนั้นอีกครั้งในเวลาหลายปีต่อมาความทรงจำของช่วงพิเศษในเวลาเหล่านั้นก็จะหวนกลับมาในความทรงจำที่ชัดเจนโดยมีกลิ่นเป็นตัวสื่อ


ที่มา : manager.co.th