“ไม่เหมาะกับคนชอบกระเป๋าหนังสภาพเรียบเนี๊ยบ ไม่มีรอยขีดข่วน ด้าย-ตะเข็บเดินตรงเป๊ะหนังผืนเดียวใหญ่ๆ” เป็นคำกล่าวของเจ้าของกระเป๋า 'Bagspace' หวังสื่อถึงความเป็นตัวตนของสินค้า พร้อมจัดสรรกลุ่มลูกค้าชายหนุ่มที่หลงรักกระเป๋าหนังแท้สไตล์ดิบเน้นฟังก์ชั่นการใช้งานกับราคาสบายกระเป๋า
เมื่อกระเป๋าหนังแท้ที่วางจำหน่ายตามท้องตลาดไม่ถูกใจทั้งในเรื่องรูปแบบและราคาหลักหมื่นสำหรับสินค้าแบรนด์เนม ทำให้เด็กหนุ่มวัย 25 ปี “อภินันท์ นิลเวช” ไม่รอช้าอาศัยเวลาว่างที่ลาออกจากงานประจำศึกษาขั้นตอนการผลิตกระเป๋าหนัง , คุณสมบัติของหนังวัวแท้รวมถึงมองหาช่องว่างทางการตลาดก็พบว่ากลุ่มสินค้ากระเป๋าหนังแท้ในราคาระดับกลางๆ งานไม่เนี้ยบมากแต่ตอบโจทย์ฟังก์ชั่นการใช้งานผู้ชายทำงานที่ชื่นชอบกระเป๋าหนังยังมีไม่มากนักในตลาด ซึ่งถือว่าเป็นจุดยืนที่ตรงกับความต้องการของอภินันท์ด้วยเช่นกัน
ดังนั้น บริษัท เอพี แมฟเวอริค จำกัด จึงก่อเกิดขึ้น เมื่อราว 1 ปีที่ผ่านมา จำหน่ายกระเป๋าหนังแท้สำหรับผู้ชายแบรนด์ “Bagspace” ที่อภินันท์ได้ร่วมกับเพื่อน “ปกรณ์ กิตติประสาธน์” เพื่อนสนิทที่ชื่นชอบกระเป๋าหนังแท้ลักษณะเดียวกันก่อร่างสร้างธุรกิจนี้ขึ้นทั้งคู่ได้ฉายภาพก่อนจะมาเป็นกระเป๋าหนัง Bagspace ว่า จากการได้เห็นกระเป๋าหนังตามห้างสรรพสินค้ามีราคาค่อนข้างสูงรวมถึงรูปแบบไม่ถูกใจรู้สึกว่ายังไม่ใช่สไตล์ของตนเองจากความเนี้ยบในการตัดเย็บ และประเภทของหนังที่บางครั้งดูหรูเกินไป ขณะที่กระเป๋าหนังที่ราคาถูกมากๆ ก็มีขายซึ่งก็ยังไม่ตอบโจทย์ความต้องการได้ จึงคิดว่าขณะนี้มีกระเป๋าในระดับกลางหรือไม่ที่เน้นการใช้งานในชีวิตประจำวันแบบผู้ชายทั่วไปได้จริงไม่ต้องระมัดระวังในเรื่องการใช้งานมากนักรวมถึงราคาก็จับต้องได้ ซึ่งทั้งคู่พบว่าในตลาดยังไม่มีมากนักเนื่องจากการผลิตกระเป๋าในลักษณะนี้กำไรค่อนข้างน้อย
[center]
แต่จากความรู้ที่ทั้งคู่เรียนมาทางด้านบริหารธุรกิจกลับมองต่างและหาวิธีลดต้นทุนในแง่การดำเนินธุรกิจเพื่อผลกำไรที่สมดุลกับราคาขายและลูกค้ายอมควักกระเป๋าจ่ายได้นั่นคือ การตัดทอนต้นทุนในเรื่องหน้าร้านอาศัยการขายผ่านเว็บไซต์เพียงอย่างเดียว, เจาะกลุ่มลูกค้าเพศชายที่ไม่เรื่องมากในการต่อรองราคาและใช้โซเชียล มีเดีย ในการทำให้สินค้าเป็นที่รู้จัก ส่งผลกระเป๋า Bagspace เป็นที่รู้จักในเวลาอันรวดเร็ว ที่ทั้งคู่มั่นใจว่านอกจากการใช้ช่องทางการสื่อสารผ่านอินเทอร์เน็ตให้เป็นประโยชน์แล้วยังมาจากสินค้าที่ลูกค้าเชื่อมั่นในคุณภาพและการออกแบบที่ตรงกับไลฟ์สไตล์ผู้ที่ชื่นชอบกระเป๋าหนังแท้แต่ไม่ต้องการความเนี้ยบมาก
"หนังต่อแล้วไงอ่ะ", "รอยมีก็เป็นธรรมดา", "ด้ายไม่เนี๊ยบมาก ช่างมัน! เพราะยังไงขอแค่ใช้ได้ ดีไซน์ถูกใจ กับการที่ได้ราคาถูกลงกว่าครึ่งจากร้านอื่น" เป็นคุณสมบัติหลักที่เจ้าของประเป๋า Bagspace ได้อธิบายไว้ในเว็บไซต์ให้แก่ลูกค้า เพราะทั้งคู่บอกว่า นี่แหละเป็นคุณสมบัติของผู้ชื่นชอบกระเป๋าหนังแท้อีกกลุ่มหนึ่งที่ไม่ต้องการความเนี้ยบมาก รวมถึงไม่คำนึงถึงน้ำหนักของตัวกระเป๋าว่าจะต้องเบาเพื่อความคล่องตัวแต่ Bagspace เน้นที่การใช้หนังแท้แบบหนาไม่มีการเฉือนให้บางพร้อมโชว์ความดิบแบบเต็มๆ ของผิวสัมผัสซึ่งมีบางรุ่นใช้หนัง Full-Grain 100% ความหนาจึงหายห่วง ส่งผลให้กระเป๋าบางรุ่นหนักถึง 2-3 กก. แต่โดยส่วนใหญ่จะอยู่ที่ประมาณ 1.5 กก. ซึ่งไม่เป็นปัญหาสำหรับผู้ชายส่วนใหญ่ที่ต้องการกระเป๋าหนังที่ใช้หนังแท้แบบดิบหนา
[center]
สำหรับกระเป๋า Bagspace มีให้เลือกทั้งแบบหนังออยล์ (หนังที่ไม่ได้ผ่านกระบวนการอัด พิมพ์ลาย เพราะฉะนั้นวัวตัวไหน ถ้าไม่มีแผลเยอะจะได้ราคาดี) และหนังนูบัค (Nubuck Leather-หนังชนิดนี้จะมีขนนุ่มสั้นๆ ขึ้นเต็มทั้งผืนหนัง ) โดยถูกนำมารังสรรค์เป็นกระเป๋าโน้ตบุคใส่เอกสาร, กระเป๋าแมสเซนเจอร์, กระเป๋าเป้หนังแท้ และกระเป๋าสะพายข้างเล็ก โดยราคาเริ่มต้นที่ 3,000-8,000 บาท
เมื่อสินค้าทุกชิ้นภายใต้แบรนด์ Bagspace กว่า 70% ขายผ่านเว็บไซต์ ส่งฟรีทั่วไทย ดังนั้นเมื่อลูกค้าไม่ได้จับต้องสินค้า ความไว้เนื้อเชื่อใจจึงเป็นสิ่งสำคัญที่สุด โดยทีมงานได้อธิบายคุณสมบัติ รูปลักษณ์ ได้อย่างละเอียด ในภาษาที่สื่อถึงความเป็นกันเองพร้อมแสดงความบริสุทธิ์ใจหากลูกค้าไม่พอใจยินดีรับเปลี่ยน-คืน ภายใน 1 วัน (กรณียังไม่ผ่านการใช้งาน) ขณะที่ลูกค้าบางรายต้องการสัมผัสสินค้าก่อนตัดสินใจซื้อต้องเดินทางมาที่โกดังลาดพร้าว 94 (สามแยกศรีวรา)
อนาคตจะพัฒนาสินค้ากระเป๋าหนังในรูปแบบอื่นๆ มากขึ้น แต่ไม่คิดจะทำกระเป๋าผู้หญิงจำหน่าย พร้อมคาดหวังให้แบรนด์ Bagspace เป็นที่แพร่หลาย ขอเพียงออกไปตามท้องถนนเห็นคนใช้กระเป๋า Bagspace เพียงหนึ่งคนก็พอใจ
ที่มา : manager.co.th