Log in with LINE
[/center]Pizza Roti เป็นหนึ่งเมนูอาหารแช่แข็งที่เกิดจากการคิดค้นของ “พัฒน์ ใบกระเพรา” เจ้าของร้านอาหารไทยชื่อดังย่านหลักสี่ ชื่อว่า ร้านใบกระเพรา จนวันหนึ่งคุณพัฒน์ฝันต้องการจะมีกิจการเป็นของตัวเอง จึงเลือกทำในสิ่งที่ตัวเองถนัดกับเมนูอาหารแช่แข็ง โดยเลือกผสมผสานระหว่างอาหารไทยกับเมนูอาหารตะวันตก Fusion Food ได้ออกมาเป็น พิซซา โรตี (Pizza Roti)
พัฒน์เล่าว่า ปี พ.ศ. 2553 ตนได้คิดค้นสูตรการทำพิซซาโรตีขึ้นมา โดยการนำเมนูอาหารไทยที่ตัวเองถนัดอย่างผัดกะเพราไก่ กะเพราทูน่า กะเพรากุ้ง และลาบไก่ มาผสมผสานกับเมนูอาหารตะวันตกอย่างพิซซา แต่จุดขายและความโดดเด่นไม่ได้อยู่แค่เมนูอาหารไทยที่กล่าวมาข้างต้น เพราะพัฒน์ให้ความสำคัญอย่างมากตั้งแต่เริ่มต้นคิดค้นสูตรแป้งโรตีผสมกับแป้งโดที่ทำพิซซา ออกมาเป็นแป้งพิซซาโรตีที่ลงตัวมาก เพราะไม่ว่าจะทิ้งแป้งไว้นานแค่ไหน แป้งก็จะไม่แข็งตัวเหมือนกับเมนูอาหารแช่แข็งทั่วไป
สำหรับเคล็ดลับความพิเศษ ของแป้งโรตีนี้คุณพัฒน์บอกกับเราว่าเขาใช้เวลาในการคิดค้นและลองผิดลองถูกอยู่นานเกือบ 2 ปี รวมไปถึงการปรับเมนูผัดกะเพราเพื่อให้สามารถเข้ากันได้กับแป้งและสูตรพิซซาโรตี และเมื่อลงตัวทั้งแป้งและหน้าพิซซา พร้อมกับการยื่นขอ อย.สำเร็จ จึงได้นำออกมาจำหน่ายเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2555 ที่ผ่านมา ซึ่งใช้การทำตลาดเชิงรุกด้วยการออกบูทตามงานแสดงต่างๆ โดยการแนะนำสินค้าแบบถึงตัวลูกค้าเพื่อให้ลูกค้าได้ทดลองชิมก่อนตัดสินใจ และไม่ผิดหวังเพราะเมื่อลูกค้าได้ชิมก็ติดใจในรสชาติ
นอกจากนี้ ได้ทีมงานด้านการตลาดมาช่วยกระจายสินค้า โดยเลือกนำไปฝากขายตามร้านกาแฟ และร้านอาหารต่างๆ ให้ช่วยเชียร์สินค้าให้ แต่แผนการตลาดที่วางไว้คือ การนำเข้าไปวางขายในซูเปอร์มาร์เกต ตอนนี้ติดปัญหา ขั้นตอนการขอบาร์โค้ด ซึ่งการจะได้บาร์โค้ดแบบง่ายที่สุดคือการเข้าร่วมเป็นผลิตภัณฑ์โอทอป และเมื่อผ่านการคัดสรรก็สามารถขอบาร์โค้ดได้ง่ายขึ้น ซึ่งตอนนี้อยู่ระหว่างการคัดสรรเพราะได้ส่งผลิตภัณฑ์เข้าร่วมคัดสรรในการประกวดสินค้าโอทอป
[center]
[/center]“หลังจากที่ผมได้เริ่มทดลองตลาด โดยการนำไปวางขายตามร้านต่างๆ พบว่าในหลายจุดให้ผลตอบรับดีมาก ปัจจุบันมีอยู่ในกรุงเทพฯ ปริมณฑล ย่านชานเมืองอย่างจังหวัดพระนครศรีอยุธยา และจังหวัดใกล้เคียงหลายแห่ง แต่ปัญหาของการกระจายสินค้าคือต้นทุนค่อนข้างสูง ทำให้เราต้องหันมามองเรื่องการตลาดใหม่ โดยการยึดทำเลในซูเปอร์มาร์เกตแทน เพราะด้วยเทรนด์อาหารแช่แข็งของเมืองไทยตอนนี้ยังคงกระจุกตัวอยู่ในเมือง ดังนั้นจึงมุ่งเป้าไปที่กลุ่มลูกค้าในเมืองที่เป็นคนรุ่นใหม่”
“อย่างไรก็ตาม โดยส่วนตัวผมมีความเชื่อว่าตลาดอาหารแช่แข็งน่าจะเติบโตได้ดี ในอนาคต เพราะไลฟ์ไสต์การใช้ชีวิตของคนเมืองหลวง หรือคนในโลกนี้เปลี่ยนไป และแนวโน้มการเติบโตของอาหารแช่แข็งก็ไปได้ดี ซึ่งแผนต่อไปของผมคือการผลักดันให้พิซซาโรตีได้เครื่องหมายฮาลาล ตอนนี้อยู่ในขั้นตอนการศึกษา และเตรียมเอกสารเพื่อยื่นขอฮาลาล และเมื่อได้ฮาลาล ก็จะได้โอกาสในการขายกลุ่มลูกค้าที่เป็นมุสลิม และจะช่วยรองรับการขยายตัวไปต่างประเทศ โดยเฉพาะในโลกของมุสลิมที่มีประชากรอยู่เป็นจำนวนมากบนโลกใบนี้”
ทั้งนี้ พิซซาโรตีเป็นอาหารแช่แข็งที่สามารถเก็บไว้ได้นาน 1 ปี ในอุณหภูมิอาหารแช่แข็งทั่วไป เมื่อนำออกมารับประทาน เพียงแค่นำเข้าไมโครเวฟ 2 นาที ก็สามารถรับประทานได้เลย ในอนาคตจะมีเมนูอาหารไทยอื่นๆ ออกมาอีก เช่น แกงเขียวหวาน เป็นต้น ส่วนการผลิตยังคงไม่ได้ใช้เครื่องจักรขนาดใหญ่ แต่ใช้เป็นอุปกรณ์ที่คุณพัฒน์คิดค้นขึ้นมาเพื่อทำให้สามารถปั้นแป้งออกมาได้รวดเร็ว และแป้งไม่หดตัว
ส่วนการลงทุน ใช้เงินลงทุนรวมถึงแผนการตลาดที่ทำอยู่ในปัจจุบันประมาณ 2-3 ล้านบาท คาดว่าโอกาสคืนทุนได้ภายใน 2 ปี ราคาขายหน้าร้านตอนนี้อยู่ที่กล่องละ 59 บาท และเมนูทูน่ากล่องละ 65 บาท สนใจสามารถติดต่อเป็นตัวแทนจำหน่ายได้
ที่มา : manager.co.th
