หน้า 1 จากทั้งหมด 1

เนชั่นเปิดตัว ไอสเเนป มิติการอ่านข่าวหนังสือพิมพ์แบบมัลติมีเดีย

โพสต์แล้ว: ศุกร์ 08 ก.พ. 2013 10:17 am
โดย Yamachita
[center]รูปภาพ[/center]

เครือเนชั่น เปิดตัว "ไอสแนป" เพิ่มมิติการอ่านข่าวหนังสือพิมพ์รูปแบบมัลติเดีย เผย ยอดดาวน์โหลดพุ่ง 2.3 แสนราย

นายต่อบุญ พ่วงมหา กรรมการผู้อำนวยการ สายธุรกิจด้านดิจิตอล บมจ.เนชั่น กล่าวว่า เครือเนชั่นเปิดตัวเทคโนโลยี "ไอสแนป (iSnap)" ผ่านแอพพลิเคชั่นเนชั่น นิวส์ อย่างเป็นทางการรองรับผู้ใช้งานในระบบปฏิบัติการไอโอเอส และแอนดรอยด์ ซึ่งจนถึงขณะนี้มีผู้สนใจดาวน์โหลดใช้งานแล้วกว่า 230,000 ครั้งจากเดิม 208,000 ครั้งภายใน 1 สัปดาห์

สำหรับไอสแนปเป็นการเพิ่มประสบการณ์การรับข่าวสารในรูปแบบใหม่ๆ ให้ฐานลูกค้าของเครือเนชั่น ทั้งที่เป็นหนังสือพิมพ์ทั้ง 3 แบรนด์หลักคือ เดอะ เนชั่น, กรุงเทพธุรกิจ และคมชัดลึก ตลอดจนสื่อมัลติมีเดียอื่นๆ ในเครือรวม 20-30 ล้านคน

รวมทั้งยังเป็นการสร้างความเชื่อมโยงกับกระแสการใช้สมาร์ทโฟนของผู้อ่านที่มีสัดส่วนเพิ่มมากขึ้น และความโดดเด่นของห้องข่าวคอนเวอร์เจนท์ที่มีกองทัพนักข่าวที่มีประสบการณ์นับ 10 ปีทำให้การอ่านหนังสือพิมพ์มีมิติมากขึ้น และผู้อ่านก็ได้รับข่าวสารที่รอบด้าน เจาะลึกผ่านสื่อในรูปแบบมัลติมีเดีย

นายต่อบุญระบุว่า เครือเนชั่นใช้เวลาศึกษาเทคโนโลยีดังกล่าวมากว่า 1 ปี และพบว่าเทคโนโลยีไอสแนปเหมาะสำหรับการประยุกต์ใช้กับหนังสือพิมพ์มากที่สุด ซึ่งเป็นพัฒนาการที่ดีกว่าเทคโนโลยีคิวอาร์โค้ดเมื่อก่อนที่จะต้องใช้ความพอดีของโค้ด หรือส่องให้ตรงโค้ดระบบจึงจะทำงาน

แต่ไอสแนปจะมองเป็นภาพรวม ไม่จำเป็นต้องใช้มือถือส่องที่บาร์โค้ด หรือโลโก้เท่านั้น เพียงแค่เปิดหน้าหนังสือพิมพ์ที่มีโลโก้แล้วใช้มือถือส่องไปที่หน้าหนังสือพิมพ์จุดใดก็ได้ระบบก็จะแสดงคอนเทนท์มัลติมีเดียให้บนหน้าจอ

นายเทพชัย หย่อง บรรณาธิการเครือเนชั่น เผยว่า ไอสแนปไม่ใช่ลูกเล่นในเชิงเทคโนโลยีเพียงอย่างเดียว แต่เป็นการสร้างคุณค่าให้ข่าวที่ผู้บริโภคสัมผัสได้ ซึ่งเป็นการก้าวข้ามข้อจำกัดของเทคโนโลยีในอดีตที่ทำไม่ได้บนหน้าหนังสือพิมพ์

นอกจากนี้ยังเป็นช่องทางที่ต่อยอดไปสู่การทำข่าวที่มีความรอบด้านมากขึ้น และครอบคลุม ซึ่งช่วยเพิ่มประโยชน์ให้ผู้อ่านที่มีพื้นฐานความรู้ในเรื่องราวที่แตกต่างกัน เช่น ข่าวด้านการเงินที่มีศัพท์เฉพาะก็จะเปิดคลิปดูภาพเคลื่อนไหว หรืออินโฟกราฟฟิกที่ทำให้เข้าใจเนื้อหาข่าวได้ดีขึ้น


ที่มา : bangkokbiznews.com