มะขามเทศ ไม้ยืนต้นรองรับการเติบโตของตลาดไม้ดอกไม้ประดับ
โพสต์แล้ว: เสาร์ 02 ก.พ. 2013 10:28 am
[center]
[/center]
คงไม่มีใครคาดคิดว่า “มะขามเทศ” ไม้ยืนต้นที่มีรูปทรงไม่ได้สวยงาม หรือ น่าจะนำมาเป็นไม้ประดับได้ แต่ด้วยฝีมือทางด้านการเกษตร ของเกษตรกรเจ้าของสวนไม้ดอกไม้ประดับ ชื่อ “ร้านไม้ไทย” จังหวัดสิงห์บุรี ที่ไม่ยอมแพ้ในการคิดพันธุ์ไม้ใหม่ออกมา รองรับการเติบโตของตลาดไม้ดอกไม้ประดับในยุคปัจจุบัน ที่เรียกได้ว่า ถ้าใครมีพันธุ์ไม้ ใหม่ สวยๆ ก็จะเป็นที่ต้องการของตลาด
นางชุติมา โปร่งสลัก เจ้าของสวนไม้ดอกไม้ประดับ “ร้านไม้ไทย” เล่าว่า ทางสวนของเราได้คิดเทคนิค การตัดต่อกิ่งพันธุ์มะขามเทศใบสีชมพูขึ้นมาในรูปแบบของ “ไม้ประดับประเภทตะโก” ซึ่งเป็นฝีมือของคุณพ่อ ซึ่งชื่นชอบการปลูก เพาะพันธุ์ต้นไม้เป็นชีวิต จิตใจ ทุกวันได้พยายามคิดผสมพันธุ์ต้นไม้สายพันธุ์ใหม่ออกมาตลอด และมีคนแวะเวียนเข้ามาซื้อหาตลอดเวลา จนกระทั่งได้ตัดสินใจเปิดร้านขาย และเป็นที่มาของร้านไม้ไทย เพราะคุณพ่อเป็นคนที่ชื่นชอบไม้ไทยมาก ดังนั้น ไม้ประดับของทางร้านจะเป็นไม้ไทย เกือบทั้งหมด
[center]
[/center]
สำหรับที่มาของมะขามเทศใบสีชมพู เกิดขึ้นมาจากที่ คุณพ่อมีมะขามเทศใบสีชมพูอยู่หนึ่งต้น และก็ยังขยายพันธุ์ไม่ได้ เพราะอายุยังไม่มากพอ คุณพ่อ เห็นว่าใบมะขามเทศ ที่เป็นสีชมพูสวยดี มันน่าจะนำมาตัดแต่งเป็นไม้ประดับประเภทไม้ดัดอย่างตะโกได้ จึงได้ใช้วิธีการนำต้นของมะขามเทศทั่วไป มาตัดแต่งกิ่งและใบออกทั้งหมด ให้เหลือแต่ส่วนลำต้น และนำกิ่งมะขามเทศสีชมพูต้นใหญ่ลงมาทาบกิ่ง กับลำต้นที่เตรียมไว้ได้ออกมาเป็นไม้ประดับมะขามเทศใบสีชมพู ซึ่งคนทั่วไป จะเรียกไม้ประเภทนี้ว่า ไม้เกา
ปัจจุบัน เกษตรกรเจ้าของสวนไม้ประดับมีการทำไม้เกาะออกมาจำหน่ายกันหลากหลายชนิด เพราะสามารถบังคับควบคุมให้ได้ ต้นไม้ ทรงพุ่มอย่างที่ต้องการได้ง่าย และให้ผลเร็ว ไม่ต้องรอเวลานาน โดยมะขามเทศสีชมพูที่ทางร้านไม้ไทยนำออกมาจำหน่าย ใช้เวลาเพียง 3-4 เดือนก็สามารถนำออกมาจำหน่ายได้ ซึ่งราคาจำหน่ายขึ้นอยู่กับขนาดและอายุ ราคาเริ่มต้นที่ 700 บาท ไปจนถึงหลักหมื่นบาท ซึ่งขนาดที่ลูกค้าชื่นชอบ ส่วนใหญ่อยู่ที่อายุประมาณ 1 ปี ราคา 3,500 บาท แต่ที่ทางร้านนำออกมาจำหน่าย ส่วนใหญ่อายุ 4 เดือน ถึง 6 เดือนราคา 700 บาท ถึง 1,200 บาท
ทั้งนี้ การปลูกไม้ประดับประเภทไม้เกาะ ถ้าจะให้สวย อยู่ตลอด ลูกค้าที่ซื้อไปจะต้องมั่นคอยดูแล ตัดแต่งกิ่ง ให้ออกมาในแบบที่ต้องการจะให้เป็น ซึ่งทางร้านก็จะเทคนิคการแต่งกิ่งและบังคับให้ได้รูปทรงอย่างที่ต้องการเช่นกัน ซึ่งในส่วนของมะขามเทศใบสีชมพู ทางร้านได้เริ่มนำออกมาจำหน่ายได้ประมาณ 3-4 เดือน ผลตอบรับออกมาข้างดีมาก สำหรับตลาดที่สิงห์บุรี ได้มีการนำเข้ามาจำหน่ายที่งานแสดงสินค้าที่เมืองทองธานี ล่าสุดได้มาร่วมออกงาน Thailand Mega Show ผลตอบรับออกมาดีมาก เช่นกัน เรียกว่า มีมาเท่าไหร่ก็ขายได้หมด
[center]
[/center]
สำหรับมะขามใบสีชมพูของร้านไม้ไทย ที่นำมาทำเป็นไม้ประดับ จะแตกต่างจากมะขามทั่วๆไป เพราะนอกจากลำต้น ใบกิ่ง ที่บังคับให้ออกเป็นพุ่มอย่างที่ต้องการแล้ว มะขามเทศใบสีชมพู ยังไม่ให้ผลผลิตฝักมะขามเทศ เหมือนกับมะขามเทศทั่วไป และนอกจากมะขามเทศใบสีชมพู ทางร้านยังมีไม้ประดับประเภทอื่นๆ ที่เป็นไม้ไทยโบราณ ไม้มงคล และไม้หอม ฯลฯ
“ชุติมา” บอกกับเราว่า ทางร้านมีแต่ไม้ไทย ดังนั้น คนที่มาร้านเรา ก็จะรู้ว่า ถ้ามาร้านเราก็จะได้ไม้ไทย และไม้หอม เท่านั้น สวนหนึ่งที่เราไม่มีไม้อื่น เนื่องจากพ่อมีประสบการณ์ทำไม้ไทยมานานกว่า 20-30 ปี และถ้าจะให้พ่อเปลี่ยนมาทำไม้ประเภทอื่นๆ จะไม่ทำ เพราะส่วนหนึ่งต้องการที่จะอนุรักษ์ไม้ไทย ให้กับเยาวชนคนรุ่นหลัง เนื่องจากปัจจุบันไม้ไทย ไม่ค่อยได้รับความนิยมในกลุ่มของนักแต่งสวน พ่อจึงพยายามปรับแต่งไม้ไทยให้สามารถเป็นไม้ประดับแต่งสวนแนวใหม่ได้
ในส่วนของช่องการขาย เนื่องจากร้านของเราอยู่ต่างจังหวัด ขายแบบชาวบ้าน ช่องทางการขายตอนนี้ก็มีเพียงหน้าร้าน แต่อาศัยว่า เปิดมานาน จึงได้ลูกค้ามาจากการบอกกันแบบปากต่อปาก ซึ่งมีลูกค้าจากกรุงเทพฯ เข้ามาใช้บริการ ปัจจุบันการแข่งขันค่อนข้างมีสูงในธุรกิจไม้ประดับ ทางเราจึงได้ขยายช่องทางการขายสินค้าด้วยการไปร่วมออกงานแสดงสินค้า ในกรุงเทพฯให้มากขึ้น
ที่มา : manager.co.th
คงไม่มีใครคาดคิดว่า “มะขามเทศ” ไม้ยืนต้นที่มีรูปทรงไม่ได้สวยงาม หรือ น่าจะนำมาเป็นไม้ประดับได้ แต่ด้วยฝีมือทางด้านการเกษตร ของเกษตรกรเจ้าของสวนไม้ดอกไม้ประดับ ชื่อ “ร้านไม้ไทย” จังหวัดสิงห์บุรี ที่ไม่ยอมแพ้ในการคิดพันธุ์ไม้ใหม่ออกมา รองรับการเติบโตของตลาดไม้ดอกไม้ประดับในยุคปัจจุบัน ที่เรียกได้ว่า ถ้าใครมีพันธุ์ไม้ ใหม่ สวยๆ ก็จะเป็นที่ต้องการของตลาด
นางชุติมา โปร่งสลัก เจ้าของสวนไม้ดอกไม้ประดับ “ร้านไม้ไทย” เล่าว่า ทางสวนของเราได้คิดเทคนิค การตัดต่อกิ่งพันธุ์มะขามเทศใบสีชมพูขึ้นมาในรูปแบบของ “ไม้ประดับประเภทตะโก” ซึ่งเป็นฝีมือของคุณพ่อ ซึ่งชื่นชอบการปลูก เพาะพันธุ์ต้นไม้เป็นชีวิต จิตใจ ทุกวันได้พยายามคิดผสมพันธุ์ต้นไม้สายพันธุ์ใหม่ออกมาตลอด และมีคนแวะเวียนเข้ามาซื้อหาตลอดเวลา จนกระทั่งได้ตัดสินใจเปิดร้านขาย และเป็นที่มาของร้านไม้ไทย เพราะคุณพ่อเป็นคนที่ชื่นชอบไม้ไทยมาก ดังนั้น ไม้ประดับของทางร้านจะเป็นไม้ไทย เกือบทั้งหมด
[center]
สำหรับที่มาของมะขามเทศใบสีชมพู เกิดขึ้นมาจากที่ คุณพ่อมีมะขามเทศใบสีชมพูอยู่หนึ่งต้น และก็ยังขยายพันธุ์ไม่ได้ เพราะอายุยังไม่มากพอ คุณพ่อ เห็นว่าใบมะขามเทศ ที่เป็นสีชมพูสวยดี มันน่าจะนำมาตัดแต่งเป็นไม้ประดับประเภทไม้ดัดอย่างตะโกได้ จึงได้ใช้วิธีการนำต้นของมะขามเทศทั่วไป มาตัดแต่งกิ่งและใบออกทั้งหมด ให้เหลือแต่ส่วนลำต้น และนำกิ่งมะขามเทศสีชมพูต้นใหญ่ลงมาทาบกิ่ง กับลำต้นที่เตรียมไว้ได้ออกมาเป็นไม้ประดับมะขามเทศใบสีชมพู ซึ่งคนทั่วไป จะเรียกไม้ประเภทนี้ว่า ไม้เกา
ปัจจุบัน เกษตรกรเจ้าของสวนไม้ประดับมีการทำไม้เกาะออกมาจำหน่ายกันหลากหลายชนิด เพราะสามารถบังคับควบคุมให้ได้ ต้นไม้ ทรงพุ่มอย่างที่ต้องการได้ง่าย และให้ผลเร็ว ไม่ต้องรอเวลานาน โดยมะขามเทศสีชมพูที่ทางร้านไม้ไทยนำออกมาจำหน่าย ใช้เวลาเพียง 3-4 เดือนก็สามารถนำออกมาจำหน่ายได้ ซึ่งราคาจำหน่ายขึ้นอยู่กับขนาดและอายุ ราคาเริ่มต้นที่ 700 บาท ไปจนถึงหลักหมื่นบาท ซึ่งขนาดที่ลูกค้าชื่นชอบ ส่วนใหญ่อยู่ที่อายุประมาณ 1 ปี ราคา 3,500 บาท แต่ที่ทางร้านนำออกมาจำหน่าย ส่วนใหญ่อายุ 4 เดือน ถึง 6 เดือนราคา 700 บาท ถึง 1,200 บาท
ทั้งนี้ การปลูกไม้ประดับประเภทไม้เกาะ ถ้าจะให้สวย อยู่ตลอด ลูกค้าที่ซื้อไปจะต้องมั่นคอยดูแล ตัดแต่งกิ่ง ให้ออกมาในแบบที่ต้องการจะให้เป็น ซึ่งทางร้านก็จะเทคนิคการแต่งกิ่งและบังคับให้ได้รูปทรงอย่างที่ต้องการเช่นกัน ซึ่งในส่วนของมะขามเทศใบสีชมพู ทางร้านได้เริ่มนำออกมาจำหน่ายได้ประมาณ 3-4 เดือน ผลตอบรับออกมาข้างดีมาก สำหรับตลาดที่สิงห์บุรี ได้มีการนำเข้ามาจำหน่ายที่งานแสดงสินค้าที่เมืองทองธานี ล่าสุดได้มาร่วมออกงาน Thailand Mega Show ผลตอบรับออกมาดีมาก เช่นกัน เรียกว่า มีมาเท่าไหร่ก็ขายได้หมด
[center]
สำหรับมะขามใบสีชมพูของร้านไม้ไทย ที่นำมาทำเป็นไม้ประดับ จะแตกต่างจากมะขามทั่วๆไป เพราะนอกจากลำต้น ใบกิ่ง ที่บังคับให้ออกเป็นพุ่มอย่างที่ต้องการแล้ว มะขามเทศใบสีชมพู ยังไม่ให้ผลผลิตฝักมะขามเทศ เหมือนกับมะขามเทศทั่วไป และนอกจากมะขามเทศใบสีชมพู ทางร้านยังมีไม้ประดับประเภทอื่นๆ ที่เป็นไม้ไทยโบราณ ไม้มงคล และไม้หอม ฯลฯ
“ชุติมา” บอกกับเราว่า ทางร้านมีแต่ไม้ไทย ดังนั้น คนที่มาร้านเรา ก็จะรู้ว่า ถ้ามาร้านเราก็จะได้ไม้ไทย และไม้หอม เท่านั้น สวนหนึ่งที่เราไม่มีไม้อื่น เนื่องจากพ่อมีประสบการณ์ทำไม้ไทยมานานกว่า 20-30 ปี และถ้าจะให้พ่อเปลี่ยนมาทำไม้ประเภทอื่นๆ จะไม่ทำ เพราะส่วนหนึ่งต้องการที่จะอนุรักษ์ไม้ไทย ให้กับเยาวชนคนรุ่นหลัง เนื่องจากปัจจุบันไม้ไทย ไม่ค่อยได้รับความนิยมในกลุ่มของนักแต่งสวน พ่อจึงพยายามปรับแต่งไม้ไทยให้สามารถเป็นไม้ประดับแต่งสวนแนวใหม่ได้
ในส่วนของช่องการขาย เนื่องจากร้านของเราอยู่ต่างจังหวัด ขายแบบชาวบ้าน ช่องทางการขายตอนนี้ก็มีเพียงหน้าร้าน แต่อาศัยว่า เปิดมานาน จึงได้ลูกค้ามาจากการบอกกันแบบปากต่อปาก ซึ่งมีลูกค้าจากกรุงเทพฯ เข้ามาใช้บริการ ปัจจุบันการแข่งขันค่อนข้างมีสูงในธุรกิจไม้ประดับ ทางเราจึงได้ขยายช่องทางการขายสินค้าด้วยการไปร่วมออกงานแสดงสินค้า ในกรุงเทพฯให้มากขึ้น
ที่มา : manager.co.th