TGM เตรียมบุกตลาดเนื้อสัตว์แปรรูปภายในประเทศและต่างประเทศ เตรียมสู่ AEC
โพสต์แล้ว: ศุกร์ 18 ม.ค. 2013 11:30 am
[center]
[/center]
นางจันทนา พัวพัฒนขจร กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทย เยอรมัน มีทโปรดักท์ จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์อาหารแปรรูปเนื้อสัตว์ ภายใต้แบรนด์ “TGM” เปิดเผยว่า ในปี 2556 นี้ บริษัทได้เตรียมพร้อมที่จะบุกตลาดเนื้อสัตว์แปรรูปภายในประเทศและต่างประเทศอย่างเต็มที่ เพื่อเตรียมพร้อมสู่การเปิดประชาคมอาเซียน (AEC) ในปี 2558ดังนั้นจึงได้วางแผนขยายกำลังการผลิตด้วยเครื่องจักรจากเยอรมนี จากเดิมวันละ 25 ตัน เพิ่มเป็นวันละ 40 ตัน
นอกจากนี้ยังทุ่มงบกว่า 30 ล้านบาทสำหรับการปรับบรรจุภัณฑ์ใหม่แบบซิปล็อกถนอมอาหารเป็นรายแรกของตลาด เพื่อช่วยคงคุณภาพความสดใหม่ของไส้กรอก พร้อมเพิ่มความสะดวกในการเก็บรักษาให้กับผู้บริโภคยิ่งขึ้น ซึ่งบริษัทจะประเดิมเปลี่ยนบรรจุภัณฑ์แบบซิปล็อกในผลิตภัณฑ์กลุ่มไส้กรอก โบโลน่า จำนวน 15 รายการ ก่อน และจะทยอยเปลี่ยนให้ครบทุกผลิตภัณฑ์ภายใน 2 เดือน
สำหรับที่มาของการปรับบรรจุภัณฑ์แบบซิปล็อกนั้น มาจากพฤติกรรมการรับประทานอาหารของผู้บริโภคส่วนใหญ่
ที่มักจะรับประทานไม่หมดในคราวเดียว ดังนั้นการใช้บรรจุภัณฑ์แบบซิปล็อกจึงสามารถตอบโจทย์ผู้บริโภคได้ดี
ทั้งนี้การบุกตลาดต่างประเทศ ปัจจุบันจะเน้นในแถบอาเซียน ล่าสุดกำลังอยู่ระหว่างการเจรจาหาพันธมิตรทางธุรกิจในกัมพูชา พม่า ลาว เวียดนาม มั่นใจว่าหลังโรงงานผลิตแห่งที่ 2 เสร็จในปี 2558 จะสามารถรองรับความต้องการตลาดอาเซียนได้แน่นอน ส่วนภาพรวมตลาดปี 2556 มองว่าจะเติบโต 15% จากมูลค่าตลาดรวม 10,000 ล้านบาท
ที่มา : naewna.com/

นางจันทนา พัวพัฒนขจร กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทย เยอรมัน มีทโปรดักท์ จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์อาหารแปรรูปเนื้อสัตว์ ภายใต้แบรนด์ “TGM” เปิดเผยว่า ในปี 2556 นี้ บริษัทได้เตรียมพร้อมที่จะบุกตลาดเนื้อสัตว์แปรรูปภายในประเทศและต่างประเทศอย่างเต็มที่ เพื่อเตรียมพร้อมสู่การเปิดประชาคมอาเซียน (AEC) ในปี 2558ดังนั้นจึงได้วางแผนขยายกำลังการผลิตด้วยเครื่องจักรจากเยอรมนี จากเดิมวันละ 25 ตัน เพิ่มเป็นวันละ 40 ตัน
นอกจากนี้ยังทุ่มงบกว่า 30 ล้านบาทสำหรับการปรับบรรจุภัณฑ์ใหม่แบบซิปล็อกถนอมอาหารเป็นรายแรกของตลาด เพื่อช่วยคงคุณภาพความสดใหม่ของไส้กรอก พร้อมเพิ่มความสะดวกในการเก็บรักษาให้กับผู้บริโภคยิ่งขึ้น ซึ่งบริษัทจะประเดิมเปลี่ยนบรรจุภัณฑ์แบบซิปล็อกในผลิตภัณฑ์กลุ่มไส้กรอก โบโลน่า จำนวน 15 รายการ ก่อน และจะทยอยเปลี่ยนให้ครบทุกผลิตภัณฑ์ภายใน 2 เดือน
สำหรับที่มาของการปรับบรรจุภัณฑ์แบบซิปล็อกนั้น มาจากพฤติกรรมการรับประทานอาหารของผู้บริโภคส่วนใหญ่
ที่มักจะรับประทานไม่หมดในคราวเดียว ดังนั้นการใช้บรรจุภัณฑ์แบบซิปล็อกจึงสามารถตอบโจทย์ผู้บริโภคได้ดี
ทั้งนี้การบุกตลาดต่างประเทศ ปัจจุบันจะเน้นในแถบอาเซียน ล่าสุดกำลังอยู่ระหว่างการเจรจาหาพันธมิตรทางธุรกิจในกัมพูชา พม่า ลาว เวียดนาม มั่นใจว่าหลังโรงงานผลิตแห่งที่ 2 เสร็จในปี 2558 จะสามารถรองรับความต้องการตลาดอาเซียนได้แน่นอน ส่วนภาพรวมตลาดปี 2556 มองว่าจะเติบโต 15% จากมูลค่าตลาดรวม 10,000 ล้านบาท
ที่มา : naewna.com/