โออิชิ นำร่องบุกตลาดชาพร้อมดื่มในปี 56 เสริมวามแกร่งให้แบรนด์โออิชิ
โพสต์แล้ว: อังคาร 15 ม.ค. 2013 10:22 am
นายอนิรุทธ์ มหธร รองกรรมการผู้จัดการ สายงานธุรกิจเครื่องดื่ม บริษัทโออิชิ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทตั้งงบประมาณไว้ที่ 80 ล้านบาท ในการทำการตลาดชาผลไม้ “โออิชิ ฟรุตโตะ” เพื่อขยายฐานผู้บริโภค และสร้างกระแสก่อนวางขาย ผ่านกิจกรรมออนไลน์ และกิจกรรมการตลาด โดยตั้งเป้าสร้างยอดขายรวม 500 ล้านบาท ภายในปี 2556 นี้ และเป็นการนำร่องการบุกตลาดชาพร้อมดื่มในปี 2556 รวมถึงเสริมความแข็งแกร่งให้แบรนด์ “โออิชิ” ที่เป็นเจ้าตลาดชาพร้อมดื่ม
ทั้งนี้ “โออิชิ ฟรุตโตะ” จะชูคอนเซปต์ การผสมผสานที่ลงตัวของชาเขียวแท้คุณภาพดีกับสุดยอดผลไม้ พรีเมี่ยม 2 ชนิด ที่แตกต่างอย่างลงตัว แบบหวานหอมอมเปรี้ยว เบื้องต้นวางตลาด 2 รสชาติ ประกอบด้วย สตอเบอรี่ เลมอน และเลมอน เบอรี่ พร้อมปรับภาพลักษณ์บรรจุภัณฑ์ใหม่ ด้วยการวางตลาดเพียงขนาดเดียว คือ 350 มิลลิลิตร ราคา 12 บาท เริ่มวางตลาดวันที่ 24 มกราคม 2556 และยังได้ดึงนักแสดง “เต๋อ-ฉันทวิชช์ ธนะเสวี” มาเป็นพรีเซนเตอร์ เพื่อสะท้อนแบรนด์ และเป็นตัวแทนคนรุ่นใหม่ที่ใส่ใจสุขภาพและมองหาความแปลกใหม่ เชื่อว่าจะได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้บริโภค โดยเฉพาะกลุ่มอายุตั้งแต่ 15-18 ปี
อย่างไรก็ตามบริษัทวางแผนออกวางตลาดสินค้าใหม่ๆอย่างต่อเนื่อง อย่างน้อยไตรมาสละ 1 รายการ เพื่อรองรับการตลาดที่มีการแข่งขันสูงขึ้น คาดว่าตลอดทั้งปี 2556 จะมีการเปิดตัวสินค้าใหม่ 4 รายการ และในปี 2556 นี้บริษัทคาดว่าจะสามารถเปิดสายการผลิตใหม่ที่จังหวัดสระบุรีได้ภายในเดือนเมษายน ซึ่งมีกำลังการผลิตเครื่องดื่มชนิดขวด PET ประมาณ 15 ล้านขวดต่อเดือน ซึ่งจะส่งผลให้กำลังการผลิตเพิ่มขึ้นจากเดิมที่ 45 ล้านขวดต่อดือน เป็น 60 ล้านขวดต่อเดือน
ทั้งนี้ในปี 2556 บริษัทเชื่อว่ายอดขายเครื่องดื่มโออิชิจะขยายตัวตามตลาดรวมชาเขียว โดยคาดว่าจะเติบโต 30% ซึ่งเป็นการเติบโตต่อเนื่องจากปี 2555 ขณะที่ตลาดรวมชาเขียวก็คาดว่าจะเติบโตกว่า 30% หรือคิดเป็นมูลต่าประมาน 13,000 ล้านบาท และเป็นปีที่มีการเติบโตมากที่สุดในรอบ 4 ปี
สำหรับภาพรวมกลุ่มเครื่องดื่มในเครือโออิชิ คาดว่าปี 2556 นี้จะดีกว่าในปี 2555 ที่ผ่านมา เพราะในปี 2554 โรงงานของบริษัทได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์น้ำท่วม ส่งผลให้สายการผลิตได้รับความเสียหาย ทำให้ผลิตสินค้าไม่ครบทุกสินค้าที่มีอยู่ในเครือ แต่ในปี 2556 จะสามารถกลับมาผลิตได้ครบทุกสินค้า โดยสินค้าที่ยังไม่สามารถผลิตได้ในขณะนี้ คือ กาแฟ “คอฟฟิโอ” คาดว่าจะกลับมาวางตลาดได้อีกครั้งในช่วงครึ่งปีหลัง 2556 และอาจจะมีการเพิ่มสินค้าใหม่ๆที่เกี่ยวข้องกับกาแฟเข้ามาเพิ่มเติมอีกด้วย
ส่วนการแข่งขันของตลาดชาพร้อมดื่มในปัจจุบัน มีการแข่งขันสูงมาก จึงได้มีการทำการตลาดเพิ่มขึ้นจากเดิม โดยบริษัทจะมีการเพิ่มงบลงทุนด้านการตลาดเป็น12 % ของยอดขาย หรือประมาณกว่า 800 ล้านบาท ด้วยการจัดแคมเปญต่างๆตลอดทั้งปี และคาดว่าปี 2556 นี้ส่วนแบ่งตลาดของเครื่องดื่มโออิชิจะเพิ่มขึ้นอีก 5 % จากที่อยู่ในระดับ 45-50% ในปี 2555 ที่ผ่านมา
ที่มา : naewna.com/
ทั้งนี้ “โออิชิ ฟรุตโตะ” จะชูคอนเซปต์ การผสมผสานที่ลงตัวของชาเขียวแท้คุณภาพดีกับสุดยอดผลไม้ พรีเมี่ยม 2 ชนิด ที่แตกต่างอย่างลงตัว แบบหวานหอมอมเปรี้ยว เบื้องต้นวางตลาด 2 รสชาติ ประกอบด้วย สตอเบอรี่ เลมอน และเลมอน เบอรี่ พร้อมปรับภาพลักษณ์บรรจุภัณฑ์ใหม่ ด้วยการวางตลาดเพียงขนาดเดียว คือ 350 มิลลิลิตร ราคา 12 บาท เริ่มวางตลาดวันที่ 24 มกราคม 2556 และยังได้ดึงนักแสดง “เต๋อ-ฉันทวิชช์ ธนะเสวี” มาเป็นพรีเซนเตอร์ เพื่อสะท้อนแบรนด์ และเป็นตัวแทนคนรุ่นใหม่ที่ใส่ใจสุขภาพและมองหาความแปลกใหม่ เชื่อว่าจะได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้บริโภค โดยเฉพาะกลุ่มอายุตั้งแต่ 15-18 ปี
อย่างไรก็ตามบริษัทวางแผนออกวางตลาดสินค้าใหม่ๆอย่างต่อเนื่อง อย่างน้อยไตรมาสละ 1 รายการ เพื่อรองรับการตลาดที่มีการแข่งขันสูงขึ้น คาดว่าตลอดทั้งปี 2556 จะมีการเปิดตัวสินค้าใหม่ 4 รายการ และในปี 2556 นี้บริษัทคาดว่าจะสามารถเปิดสายการผลิตใหม่ที่จังหวัดสระบุรีได้ภายในเดือนเมษายน ซึ่งมีกำลังการผลิตเครื่องดื่มชนิดขวด PET ประมาณ 15 ล้านขวดต่อเดือน ซึ่งจะส่งผลให้กำลังการผลิตเพิ่มขึ้นจากเดิมที่ 45 ล้านขวดต่อดือน เป็น 60 ล้านขวดต่อเดือน
ทั้งนี้ในปี 2556 บริษัทเชื่อว่ายอดขายเครื่องดื่มโออิชิจะขยายตัวตามตลาดรวมชาเขียว โดยคาดว่าจะเติบโต 30% ซึ่งเป็นการเติบโตต่อเนื่องจากปี 2555 ขณะที่ตลาดรวมชาเขียวก็คาดว่าจะเติบโตกว่า 30% หรือคิดเป็นมูลต่าประมาน 13,000 ล้านบาท และเป็นปีที่มีการเติบโตมากที่สุดในรอบ 4 ปี
สำหรับภาพรวมกลุ่มเครื่องดื่มในเครือโออิชิ คาดว่าปี 2556 นี้จะดีกว่าในปี 2555 ที่ผ่านมา เพราะในปี 2554 โรงงานของบริษัทได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์น้ำท่วม ส่งผลให้สายการผลิตได้รับความเสียหาย ทำให้ผลิตสินค้าไม่ครบทุกสินค้าที่มีอยู่ในเครือ แต่ในปี 2556 จะสามารถกลับมาผลิตได้ครบทุกสินค้า โดยสินค้าที่ยังไม่สามารถผลิตได้ในขณะนี้ คือ กาแฟ “คอฟฟิโอ” คาดว่าจะกลับมาวางตลาดได้อีกครั้งในช่วงครึ่งปีหลัง 2556 และอาจจะมีการเพิ่มสินค้าใหม่ๆที่เกี่ยวข้องกับกาแฟเข้ามาเพิ่มเติมอีกด้วย
ส่วนการแข่งขันของตลาดชาพร้อมดื่มในปัจจุบัน มีการแข่งขันสูงมาก จึงได้มีการทำการตลาดเพิ่มขึ้นจากเดิม โดยบริษัทจะมีการเพิ่มงบลงทุนด้านการตลาดเป็น12 % ของยอดขาย หรือประมาณกว่า 800 ล้านบาท ด้วยการจัดแคมเปญต่างๆตลอดทั้งปี และคาดว่าปี 2556 นี้ส่วนแบ่งตลาดของเครื่องดื่มโออิชิจะเพิ่มขึ้นอีก 5 % จากที่อยู่ในระดับ 45-50% ในปี 2555 ที่ผ่านมา
ที่มา : naewna.com/