รมว.อุตสาหกรรมเผยตั้งคณะทำงานชักจูงการลงทุนและเชื่อมโยงผู้ประกอบ SMEs ญี่ปุ่น-ไท
โพสต์แล้ว: ศุกร์ 04 ม.ค. 2013 10:15 am
[center]
[/center]
นายประเสริฐ บุญชัยสุข รมว.อุตสาหกรรม เปิดเผยว่า ได้แต่งตั้งคณะทำงานชักจูงการลงทุนและเชื่อมโยงผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ญี่ปุ่น และเอสเอ็มอีไทย โดยมีเลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เป็นประธาน เพื่อทำหน้าที่ในการชักจูงการลงทุนและดึงดูดเม็ดเงินลงทุนจากผู้ประกอบการเอสเอ็มอีญี่ปุ่นในกลุ่มผู้รับช่วงการผลิตเข้ามาลงทุนในไทยเพิ่มขึ้น โดยใช้เวลาดำเนินการไปจนถึงเดือน พ.ย. 56 คาดว่าหลังการจัดกิจกรรมต่างๆ จะทำให้ปริมาณคำขอรับการส่งเสริมจากเอสเอ็มอีญี่ปุ่นในไทยระหว่างปี 56-57 เพิ่มขึ้น 5% ต่อปี และมีการจับคู่ธุรกิจระหว่างกันไม่น้อยกว่า 500 รายต่อปี
“คำขอรับการส่งเสริมการลงทุนจากญี่ปุ่นในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา มีโครงการที่มีมูลค่าการลงทุนระหว่าง 1-100 ล้านบาท ซึ่งจัดเป็นโครงการเอสเอ็มอี มีปริมาณขอรับการส่งเสริมเพิ่มต่อเนื่องเช่น ปี 53 มีคำจำนวนโครงการเพิ่มขึ้น 31% มูลค่าเพิ่ม 35.8% ส่วนปี 54 มีโครงการเพิ่ม 34% และมูลค่าเพิ่ม 21.8% ในปี 55 ปริมาณโครงการเพิ่ม 4.2% และมูลค่าเพิ่ม 7%”
นายประเสณิฐ กล่าวต่อไปว่า ภารกิจสำคัญของคณะทำงานดังกล่าว จะเน้นการจัดกิจกรรมชักจูงการลงทุนในรูปแบบต่างๆ และ เผยแพร่ศักยภาพและจุดแข็งของประเทศไทยต่อผู้ประกอบการเอสเอ็มอีญี่ปุ่น รวมถึงให้ข้อมูลการทำธุรกิจในไทยที่ตรงต่อความต้องการของบริษัทที่เป็นกลุ่มเป้าหมาย โดยเน้นกลุ่มที่มีศักยภาพและมีเทคโนโลยีสูง และเน้นผลิตภัณฑ์หรือชิ้นส่วนที่ผู้ประกอบการไทยยังไม่สามารถผลิตได้ หรือผลิตได้แต่ไม่เพียงพอ เช่น ชิ้นส่วนยานพาหนะ เครื่องจักรและแม่พิมพ์ที่ต้องการความแม่นยำสูง โลหะและชิ้นส่วนที่มีความเที่ยงตรงสูง เครื่องมือ/อุปกรณ์ทางการแพทย์ ชิ้นส่วนโทรคมนาคม และกิจกรรมการผลิตหรือถนอมอาหาร เป็นต้น
ที่มา : dailynews.co.th
[/center]นายประเสริฐ บุญชัยสุข รมว.อุตสาหกรรม เปิดเผยว่า ได้แต่งตั้งคณะทำงานชักจูงการลงทุนและเชื่อมโยงผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ญี่ปุ่น และเอสเอ็มอีไทย โดยมีเลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เป็นประธาน เพื่อทำหน้าที่ในการชักจูงการลงทุนและดึงดูดเม็ดเงินลงทุนจากผู้ประกอบการเอสเอ็มอีญี่ปุ่นในกลุ่มผู้รับช่วงการผลิตเข้ามาลงทุนในไทยเพิ่มขึ้น โดยใช้เวลาดำเนินการไปจนถึงเดือน พ.ย. 56 คาดว่าหลังการจัดกิจกรรมต่างๆ จะทำให้ปริมาณคำขอรับการส่งเสริมจากเอสเอ็มอีญี่ปุ่นในไทยระหว่างปี 56-57 เพิ่มขึ้น 5% ต่อปี และมีการจับคู่ธุรกิจระหว่างกันไม่น้อยกว่า 500 รายต่อปี
“คำขอรับการส่งเสริมการลงทุนจากญี่ปุ่นในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา มีโครงการที่มีมูลค่าการลงทุนระหว่าง 1-100 ล้านบาท ซึ่งจัดเป็นโครงการเอสเอ็มอี มีปริมาณขอรับการส่งเสริมเพิ่มต่อเนื่องเช่น ปี 53 มีคำจำนวนโครงการเพิ่มขึ้น 31% มูลค่าเพิ่ม 35.8% ส่วนปี 54 มีโครงการเพิ่ม 34% และมูลค่าเพิ่ม 21.8% ในปี 55 ปริมาณโครงการเพิ่ม 4.2% และมูลค่าเพิ่ม 7%”
นายประเสณิฐ กล่าวต่อไปว่า ภารกิจสำคัญของคณะทำงานดังกล่าว จะเน้นการจัดกิจกรรมชักจูงการลงทุนในรูปแบบต่างๆ และ เผยแพร่ศักยภาพและจุดแข็งของประเทศไทยต่อผู้ประกอบการเอสเอ็มอีญี่ปุ่น รวมถึงให้ข้อมูลการทำธุรกิจในไทยที่ตรงต่อความต้องการของบริษัทที่เป็นกลุ่มเป้าหมาย โดยเน้นกลุ่มที่มีศักยภาพและมีเทคโนโลยีสูง และเน้นผลิตภัณฑ์หรือชิ้นส่วนที่ผู้ประกอบการไทยยังไม่สามารถผลิตได้ หรือผลิตได้แต่ไม่เพียงพอ เช่น ชิ้นส่วนยานพาหนะ เครื่องจักรและแม่พิมพ์ที่ต้องการความแม่นยำสูง โลหะและชิ้นส่วนที่มีความเที่ยงตรงสูง เครื่องมือ/อุปกรณ์ทางการแพทย์ ชิ้นส่วนโทรคมนาคม และกิจกรรมการผลิตหรือถนอมอาหาร เป็นต้น
ที่มา : dailynews.co.th