หน้า 1 จากทั้งหมด 1

ปั้นแบรนด์ใหม่ บีเจ จากแผนบุกตลาดกางเกงยีนไฮเเฟชฯ รับพฤติกรรมคนรุ่นใหม่ไม่ติดเเบ

โพสต์แล้ว: อังคาร 18 ธ.ค. 2012 10:21 am
โดย Yamachita
ไฮแฟชฯ ปรับแผนบุกตลาดกางเกงยีนส์ ปั้นแบรนด์ใหม่ “บีเจ” เจาะตลาด5,000 ล้านบาท รับพฤติกรรมคนรุ่นใหม่ไม่ติดแบรนด์แฟชัน

น.ส.กัลยาณี บุญญลักษม์ ผู้จัดการฝ่ายการตลาด ห้างหุ้นส่วนจำกัด ไฮแฟช เอเจนซี่ เปิดเผยว่าไฮแฟชฯ ว่างแผนใช้งบลงทุนในปี2556 ไม่ต่ำกว่า 115 ล้านบาท เพื่อทำตลาดเครื่องแต่งกายยีนส์แบรนด์ใหม่ภายใต้ชื่อ บี จีเนียส หรือ ‘บีเจ’ ซึ่งเป็นการสร้างแบรนด์สินค้าของตัวเองเป็นครั้งแรก และทำตลาดเชิงรุกอย่างจริงจังครั้งแรกในรอบ 28ปี หลังจากที่บริษัทได้รับสิทธ์ในการผลิตและทำตลาด(ไลเซนส์) แบรนด์ บิ๊ก จอห์น จากประเทศญี่ปุ่น

ทั้งนี้ งบดังกล่าวจะนำไปใช้ในการพัฒนาปรับปรุงร้านสาขา บิ๊ก จอห์น เดิมที่มีกว่า 100 จุดขายทั่วประเทศ คาดใช้งบเฉลี่ยราว 1 ล้านบาทต่อสาขา ส่วนงบที่เหลือสำหรับการทำตลาดเพื่อสื่อสารแบรนด์ใหม่ดังกล่าว ร่วมกับกลุ่มเป้าหมายคนรุ่นใหม่ โดยเฉพาะการใช้กลยุทธ์การทำตลาดผ่านสื่อใหม่ ในเว็บไซต์สังคมออนไลน์(โซเชียล มีเดีย) ต่างๆมากขึ้น

สำหรับสินค้าแบรนด์ดังกล่าว จับกลุ่มเป้าหมายวัยรุ่นอายุ13 ปีขึ้นไป และกลุ่มวัยทำงานผู้บริหารคนรุ่นใหม่(ยังค์ เอ๊กเซคูทีฟ) โดยวางราคาจำหน่ายกางเกงยีนส์แบรนด์บีเจราว 1,495 ต่อตัว ซึ่งได้ทดลองทำตลาดสินค้าดังกล่าวจำนวน20ในช่วง6เดือนก่อนที่ผ่านมา ในช่องทางจำหน่าย บิ๊ก จอห์น ทั่วประเทศ และร้านสาขาเดี่ยว(สแตนด์ อโลน) 4 แห่งที่ศูนย์การค้าแฟชันไอส์แลนด์, เทอร์มินัล ทเวนตี วัน และพัทยา 2 สาขา

ทั้งนี้ ไฮแฟชฯ มองเห็นโอกาสจากตลาดสินค้าแฟชันยีนส์มูลค่ากว่า 5,000ล้านบาทในช่องทางห้างสรรพสินค้าทั่วประเทศ ที่มีอัตราเติบโตดีต่อเนื่อง จากพฤติกรรมผู้บริโภคคนรุ่นใหม่ในปัจจุบันที่นิยมแต่งกายในแบบของตัวเองมากขึ้นและไม่ยึดติดกับแบรนด์สินค้าใดแบรนด์หนึ่งเหมือนในอดีต แต่พร้อมลองซื้อแบรนด์ใหม่ที่ตรงกับความต้องการของตัวเองมากขึ้น

“ในปีหน้า เตรียมแผนขยายสาขาร้านเดี่ยวไม่ต่ำกว่า 5 จุดใหม่ ทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด โดยแต่ละสาขาคาดใช้พื้นที่ประมาณ 100 ตร.ม. ส่วนหนึ่งเพื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้มากขึ้น” น.ส.กัลยาณี กล่าว

นอกจากนี้ ไฮแฟชฯยังเตรียมปรับสัดส่วนการผลิตสินค้าใหม่ โดยให้แบรนด์บีเจ มีกำลังการผลิตราว70% จากปัจจุบันอยู่ที่ 30% ส่วนแบรนด์ บิ๊ก จอห์น จะลดสัดส่วนมาเป็น 30% จากเดิมอยู่ที่ 70% ซึ่งบริษัทได้ว่าจ้างการผลิตจากภายนอก(เอาท์ ซอร์สซิง) ในประเทศเพื่อนบ้านและจีน ส่วนหนึ่งเพื่อลดปัญหาต้นทุนการผลิตด้านแรงงานไทยที่เตรียมปรับอัตราค่าแรงขั้นต่ำใหม่เป็น 300 บาททั่วประเทศในปีหน้า

ขณะที่ปัจจุบัน มีโรงงานในไทย 1แห่งในย่านอ่อนนุช39 มีกำลังการผลิตราว 1.5หมื่นตัว มีแรงงานกว่า 200 คน ซึ่งไฮแฟชฯ ได้เร่งดำเนินการบริหารจัดการเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิตมากขึ้น เพื่อบริหารต้นทุนในภาพรวมที่ปรับเพิ่มขึ้น ซึ่งบริษัทมีแผนปรับราคาสินค้าในช่วงไตรมาส4 ปีหน้าอีกประมาณ 5% โดยในปีนี้ คาดจะมีรายได้เติบโตเพิ่มขึ้นอีก 10% จากปี2554 มียอดขายมากกว่า 500 ล้านบาท

พร้อมกันนี้ จากการทำตลาดเชิงรุกแบรนด์ บีเจ ในปีหน้า คาดจะมียอดขายเติบโตเพิ่มขึ้นอีก 5-10% พร้อมวางแผนให้แบรนด์บีเจ เข้าไปอยู่ในใจผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมาย ได้เช่นเดียวกับแบรนด์ บิ๊ก จอห์น ที่ปัจจุบันครองอันดับติด1ใน5 แบรนด์กางเกงยีนส์ในตลาดประเทศไทย คือ ลีวาย’ส, แม็ค, แรงเลอร์, ลี และฮาร่า ซึ่งภายใน 5ปีนับจากนี้ยังวางแผนขยายตลาดส่งออกไปยัง พม่า และเวียดนาม อีกด้วย


ที่มา : posttoday.com