อดีตเจ้าหน้าที่องค์การนาซ่าเปิดบริษัทร่วมกันเพื่อส่งมนุษย์ขึ้นไปเยือนดวงจันทร์ ค

[Yamachita]

อดีตเจ้าหน้าที่ขององค์การนาซา เปิดบริษัทร่วมกัน โดยมีจุดประสงค์หลัก เพื่อส่งมนุษย์ขึ้นไปเยือนดวงจันทร์ คาดว่าในอีก 8 ปีข้างหน้าจะสามารถเริ่มต้นเที่ยวบินแรกได้อย่างเป็นทางการ ซึ่งค่าใช้จ่ายนั้นจะอยู่ที่ประมาณ 42,900 ล้านบาท ต่อการเดินทาง 2 คน

อดีตเจ้าหน้าที่ระดับสูง และวิศวกรขององค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติของสหรัฐฯหรือนาซา เปิดบริษัทที่มีชื่อว่า Golden Spike เพื่อเตรียมการที่จะส่งมนุษย์ขึ้นไปเยือนบนดวงจันทร์

ซึ่งบริษัทดังกล่าว ถือเป็นบริษัทเอกชนรายแรก ที่จะส่งมนุษย์ขึ้นไปบนดวงจันทร์ โดยก่อนหน้านี้ เคยมีบริษัทอื่นๆ เช่น Space X และ Virgin Galactic ที่ทำธุรกิจด้านการอุตสาหกรรมการท่องอวกาศ แต่ก็เป็นเพียงแค่การนำลูกค้า ออกไปนอกโลกเพียงไม่กี่นาที ก่อนที่จะกลับสู่พื้นโลกเท่านั้น

ซึ่งนอกจาก Golden Spike จะให้บริการแก่ผู้ที่สนใจเดินทางไปเยือนดวงจันทร์แล้ว ก็ยังเปิดโอกาสให้แก่รัฐบาลหลายๆ ประเทศ ที่มีความต้องการส่งนักบินอวกาศ ขึ้นไปทำการสำรวจดวงจันทร์อีกด้วย เช่น ประเทศญี่ปุ่น แอฟริกาใต้ และเกาหลีใต้ ที่แสดงความสนใจด้านการพัฒนาขีดความสามารถด้านอวกาศ เพื่อแข่งขันกับประเทศอื่นๆ ก็สามารถว่าจ้างบริษัท Golden Spike ได้เช่นเดียวกัน

โดยเบื้องต้นนั้น บริษัท Golden Spike คาดการณ์ว่า ในอีก 8 ปีข้างหน้า จะสามารถส่งลูกค้าไปเยือนดวงจันทร์ได้

บริษัท Golden Spike เต็มไปด้วยผู้บริหารที่เคยทำงานอยู่ในองค์การนาซาทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็น Gerry Griffin ประธานบริหารของโครงการอะพอลโล รวมถึงคณะที่ปรึกษาที่เคยนั่งแท่นควบคุมดูแลโครงการใหญ่ๆ ของนาซาอย่าง Bill Richardson และ Newt Gingrich อดีตประธานสภาคองเกรส ผู้มีความคลั่งไคล้ในการสำรวจอวกาศ

ขณะที่ นักวิชาการจากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ก็แสดงความเห็นว่า บริษัทที่ทำธุรกิจด้านการท่องอวกาศส่วนใหญ่ มักจะล้มเหลวก่อนที่จะได้เริ่มต้นบริษัทเสียอีก ดังนั้น เขาจึงมองว่า โครงการนี้อาจจะเป็นไปไม่ได้

ทั้งนี้ นับตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน สหรัฐฯเป็นเพียงประเทศเดียวที่สามารถส่งมนุษย์ขึ้นไปบนดวงจันทร์ได้ โดยก่อนหน้านี้ นายบารัก โอบามา ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้ประกาศยกเลิกโครงการสำรวจดวงจันทร์ขององค์การนาซา

เนื่องจากค่าใช้จ่ายที่สูงจนเกินไป พร้อมกับยืนยันว่า สหรัฐฯเคยไปเยือนดวงจันทร์มาแล้ว ดังนั้น การจะไปเยือนดวงจันทร์อีกครั้ง จึงยังไม่มีความจำเป็นในตอนนี้


ที่มา : money.sanook.com