ชุดแก้วน้ำเซรามิกลูกระเบิด - ของขวัญทางเลือกใหม่ของผู้ชาย

[Yamachita]

บางครั้งการเลือกของขวัญให้ผู้ชายสักชิ้นเป็นเรื่องที่คิดหนักพอดู เพราะสินค้าที่วางจำหน่ายตามท้องตลาดจะออกแนวกุ๊กกิ๊กน่ารักสดใส เน้นเจาะลูกค้าผู้หญิง ทำให้เกิดช่องว่างทางการตลาดที่ผู้ประกอบการหลายรายไม่ทันสังเกต กลุ่มนักกราฟิกดีไซน์จึงเกิดไอเดียขอสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่จับต้องได้นอกหนือจากงานในคอมพิวเตอร์ ด้วยการหยิบจับธีมทหาร รังสรรค์สู่ “ชุดแก้วเซรามิกลูกระเบิด” แบรนด์ Zoosick สร้างความฮือฮาแก่ลูกค้าไม่น้อย

ศริญญา โรจนภิญโญสถิต ผู้จัดการฝ่ายผลิต และ ปรารถนา อัมพรสินธุ์ ผู้จัดการฝ่ายขายต่างประเทศ บริษัท ซิกส์ครีเอชั่นส์ จำกัด ย้อนที่มาผลงานเซรามิก Zoosick ว่า เดิมตนและเพื่อนๆ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นกราฟิกดีไซเนอร์ได้ออกแบบสติกเกอร์สำหรับรีดลงบนเสื้อยืดมาเกือบ 10 ปี รวมถึงได้ออกแบบคาแรกเตอร์ตัวการ์ตูนเพื่อขายลิขสิทธิ์ให้ผู้สนใจนำไปใช้กับข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ จนกระทั่งคิดที่จะสร้างสรรค์สินค้าจับต้องได้ โดยมองไปที่งานเซรามิกเพราะสมาชิกในทีมพอมีความรู้พื้นฐานอยู่บ้าง

เมื่อมาลงลึกในรายละเอียดของผลิตภัณฑ์ก็พบว่าปัจจุบันการจะเลือกซื้อของขวัญให้ผู้ชายสักชิ้นเป็นเรื่องยาก เนื่องจากสินค้าที่วางจำหน่ายตามร้านกิฟต์ชอป หรือห้างสรรพสินค้าไม่ได้ออกแบบมาเพื่อให้เป็นของขวัญแก่เพศชาย ดังนั้น จึงคิดว่านี่คือช่องว่างทางการตลาดที่ทีมงานสามารถเจาะเข้าไปได้ สุดท้ายมาลงตัวที่งานเซรามิกภายใต้คอนเซ็ปต์ความเป็น “ทหาร” ที่บ่งบอกถึงความแข็งแกร่ง มีพลัง รวมถึงยังเป็นรูปแบบกลางๆ ที่ทั้งเพศชายและหญิงต่างชื่นชอบ



“หลังจากแนวคิดในการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ลงตัว เราก็นำร่องด้วยแก้วน้ำเซรามิกด้วยรูปลักษณ์คล้ายลูกระเบิด ที่มีขนาดรูปทรงใกล้เคียงกับลูกระเบิดของจริง ใช้สีเขียวทหารสร้างความน่าสนใจ ต่อมาก็พัฒนาเป็นสีขาว โดยกระบวนการผลิตจะจ้างโรงงานที่ได้มาตรฐานและผลิตสินค้าประเภทเซรามิกที่สามารถบรรจุอาหารได้ ต่อมาแตกไลน์เป็นแก้วที่มีหูจับเป็นตะปู, กรรไกร, ปีกนางฟ้า และปีกค้างคาว ล่าสุดพัฒนาเป็นขวดเกลือและพริกไทย ที่ดูคล้ายลูกระเบิดขนาดเล็ก สร้างสีสันบนโต๊ะอาหารได้เป็นอย่างดี”

“ปัจจุบันสินค้าขายดีคือแก้วนำเซรามิกรูประเบิดที่มีลูกค้าสั่งออเดอร์เข้ามาต่อเนื่องทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งน่าจะมาจากความแปลกใหม่ไม่เหมือนใคร รวมถึงใครเห็นก็ต้องเหลียวมอง โดยเฉพาะเมื่อนำไปวางตามห้างสรรพสินค้าชั้นนำ อย่าง เครือเดอะมอลล์ กรุ๊ป ได้แก่ ดิ เอ็มโพเรียม และสยามพารากอน โซน Be Trend เป็นต้น ในขณะที่ตลาดต่างประเทศทางบริษัทฯ เป็นผู้ส่งออกเองทั้งหมดไปยังประเทศอังกฤษ เนเธอร์แลนด์ ฟินแลนด์ โปแลนด์ และญี่ปุ่น จากกำลังการผลิตที่ 50,000 ใบต่อปี”

ส่วนแผนธุรกิจในอนาคตทีมงานตั้งใจจะออกแบบผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ปีละ 2 แบบ พร้อมมองหาตลาดส่งออกใหม่เพิ่มขึ้น เพราะเชื่อมั่นว่าสินค้าดีไซน์ประเภทนี้ยังเป็นที่ต้องการของผู้คนอีกหลายประเทศ เพียงแต่เขายังหาเราไม่เจอเท่านั้น




ที่มา : manager.co.th