พีเอสไอ เดินหน้าปรับโครงสร้างธุรกิจรับยุค กสทช. ยื่นขอใบอนุญาตโครงข่ายลุยขยายธุรกิจ "เพย์ทีวี" เล็งจับมือคอนเทนท์ต่างชาติผุด 10 ช่อง
นายสมพร ธีระโรจนพงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พีเอสไอ โฮลดิ้ง จำกัด เปิดเผย "กรุงเทพธุรกิจ"ว่าบริษัทได้ปรับโครงสร้างธุรกิจใหม่เพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายการจัดสรรคลื่นความถี่และการกำกับดูแลของ คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ที่กำลังอยู่ระหว่างการออกใบอนุญาตใหม่ในกิจการบรอดแคสต์ ทั้งในกลุ่มใช้คลื่นความถี่และไม่ใช้คลื่นความถี่
จากเดิมพีเอสไอมีรายได้หลัก 70% จากการขายจานและกล่องรับสัญญาณดาวเทียม(ฮาร์ดแวร์) แต่ในปีหน้าสัดส่วนดังกล่าวจะลดลงเหลือ 60% โดยบริษัทได้ขยายธุรกิจใหม่อีก 2 กลุ่มคือ ธุรกิจช่องทีวีดาวเทียม ทั้งที่ผลิตรายการเอง และร่วมทุนกับคอนเทนท์ โปรวายเดอร์ ทั้งไทยและต่างประเทศ และธุรกิจเพย์ทีวี
โดยวานนี้ (11 ธ.ค.) บริษัทได้ไปยื่นขอใบอนุญาตโครงข่ายกิจการไม่ใช้คลื่นความถี่กับ กสทช. ซึ่งคาดว่าจะได้รับใบอนุญาตราว ม.ค.ปีหน้า ภายใต้ใบอนุญาตดังกล่าวพีเอสไอ จะเป็นผู้ให้บริการช่องรายการในกลุ่มทีวีดาวเทียมประเภทฟรีทูแอร์กว่า 200 ช่อง และบริการช่อง"เพย์ทีวี" ซึ่งสามารถดำเนินการผ่านกล่องรับสัญญาณแบบเข้ารหัส (Conditional Access :CA) ซึ่งจำหน่ายไปแล้วกว่า 2 ล้านกล่อง จากกล่องพีเอสไอทุกรุ่นที่มีอยู่ในตลาดรวม 11 ล้านกล่อง
ในปีหน้าหลังจาก กสทช. เริ่มให้ใบอนุญาตประเภทต่างๆแล้ว รวมทั้งโครงข่ายเพย์ทีวี ทำให้เจ้าของคอนเทนท์จากต่างประเทศสนใจเข้ามาขยายกิจการบรอดแคสต์ในไทยร่วมกับพีเอสไอมากขึ้น ทั้งกลุ่มคอนเทนท์สารคดี บันเทิง และซีรี่ส์ จากประเทศเกาหลี ญี่ปุ่น เยอรมนี ฝรั่งเศส เป็นต้น โดยจะมีทั้งการร่วมทุนและเป็นพันธมิตรบริหารช่องรายการในธุรกิจเพย์ทีวี คาดว่าภายในปี 2557 จะเปิดให้บริการรวม 10 ช่องรายการ เก็บค่าสมาชิกในอัตราต่ำราวเดือนละ 100 บาท
"ปัจจุบันผู้ชมมีทางเลือกในการรับชมช่องรายการหลากหลาย ทั้งจากทีวีดาวเทียมกว่า 200 ช่อง และทีวีดิจิทัลในปีหน้า อีกทั้งมีค่าใช้จ่ายจากการเป็นสมาชิกเคเบิลทีวีอยู่แล้ว การเสนอช่องเพย์ทีวี ผ่านกล่องรับสัญญาณ จึงไม่สามารถตั้งราคาได้สูง แต่มีโอกาสหารายได้เพิ่มจากสปอนเซอร์สนับสนุนช่องรายการแทน" นายสมพรกล่าว
จากสถานการณ์การแข่งขันในธุรกิจกล่องรับสัญญาณ ทำให้เกิดสงครามราคาต่อเนื่องตลอดปีนี้ ส่งผลให้ผู้ผลิตไม่สามารถทำกำไรจากธุรกิจกล่องได้ และในปีหน้ายังต้องเผชิญกับการเปิดตัวกล่องรับสัญญาณ"ทีวีดิจิทัล" อีกประเภท เชื่อว่าผู้ประกอบการอาจใช้กลยุทธ์แจกกล่องฟรี เพื่อหวังหารายได้จากธุรกิจอื่น ทั้งรายได้โฆษณาจากช่องรายการ และธุรกิจเพย์ทีวี
สำหรับพีเอสไอ ได้ปรับทิศทางธุรกิจเพื่อมุ่งหารายได้จากธุรกิจอื่นๆ นอกจากยอดขายกล่องเช่นกัน ทั้งธุรกิจการส่งสัญญาณดาวเทียมให้กับช่องทีวีดาวเทียม ปัจจุบันให้บริการ 15 ช่อง คาดว่าปีหน้าจะเพิ่มเป็น 35 ช่อง หลังจากดาวเทียมไทยคม 6 เปิดให้บริการราวเดือนส.ค.2557 พร้อมทั้งขยายธุรกิจช่องรายการเพย์ทีวี และการเปิดช่องทีวีดาวเทียมทั้งที่ผลิตเอง และร่วมทุนกับพันธมิตร เช่น เวิร์คพ้อยท์ เพื่อหารายได้จากโฆษณา คาดว่าในหน้าจะมีรายได้รวม 3,500 ล้านบาท เพิ่มจากปีนี้ที่มีรายได้ 3,000 ล้านบาท
ที่มา : bangkokbiznews.com

- บุคคลทั่วไป จะไม่สามารถเข้าอ่านกระทู้บางบอร์ด แนะนำให้ท่าน สมัครสมาชิกคลิกตามลิงค์นี้
- สมาชิกใหม่ ถ้ายังไม่ได้แนะนำตัวจะไม่สามารถ ตั้งกระทู้ และ ดาวน์โหลด ไฟล์จากเว็บบอร์ดได้ ท่านจำเป็นต้องแนะนำตัวที่หมวดนี้
- ถ้ามีปัญหาการใช้งาน หรือ ข้อเสนอแนะใดๆ แนะนำได้ที่นี่
- ปุ่มรูปหัวใจใต้โพส แต่ละโพส ท่านสามารถกดเพื่อสื่อถึงคนโพสนั้นถูกใจท่าน
- ห้ามลง E-mail, เบอร์โทรส่วนตัว, Line id หรือข้อมูลส่วนตัวอื่นๆ เพื่อป้องกันการแอบอ้างและโฆษณาแฝง โดยสามารถติดต่อสมาชิกท่านอื่นผ่านระบบ PM ของบอร์ด
- ท่านสามารถปิดการแจ้งนี้ได้ ที่มุมขวาของกล่องข้อความนี้
บุคคลทั่วไปสามาเข้าสู่ระบบ ด้วย Account ของ FaceBook ได้แล้ว คลิกที่นี่ได้เลย
พีเอสไอ เดินหน้าปรับโครงสร้างธุรกิจรับยุค กสทช. ยื่นขอใบอนุญาตโครงข่ายลุยขยายธุร
ผู้ใช้งานขณะนี้
กำลังดูบอร์ดนี้: 46 และ บุคคลทั่วไป 0 ท่าน