โพสต์ โดย Yamachita » อังคาร 25 มิ.ย. 2013 10:31 am
นายจักรกฤษณ์ กีรติโชคชัยกุล ผู้อำนวยการใหญ่อาวุโส บริหารสินค้าเพาเวอร์มอลล์ (POWER MALL) บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด เปิดเผยว่า ในช่วงที่ผ่านมาที่ทางคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ยังไม่ได้ข้อสรุปเกี่ยวกับการประกอบกิจการโทรทัศน์ดิจิตอลหรือดิจิตอลทีวีนั้น ได้ส่งผลกระทบในวงกว้าง โดยเฉพาะตลาดทีวี ซึ่งในช่วง 5 เดือนแรกปี 2556 ที่ผ่านมาพบว่าตลาดดังกล่าวเติบโตลดลงถึง 20%
ทั้งนี้การเติบโตลดลงของตลาดทีวีส่วนหนึ่งมาจากการชลอการซื้อทีวีของผู้บริโภค ประกอบกับหลายทีวีแบรนด์ที่อยู่ในตลาดได้ชลอการทำกิจกรรมการตลาด เพื่อรอความชัดเจนของ กสทช. แม้หลายแบรนด์จะมีการผลิตสินค้าทีวีที่รองรรับระบบดิจิตอลไว้แล้วก็ตาม และในส่วนของเพาเวอร์มอลล์เองก็มียอดขายทีวีลดลง 20% เช่นเดียวกัน ซึ่งสอดคล้องกับตลาดรวมทีวี จึงคาดว่าจะส่งผลให้ในช่วงครึ่งปีแรก 2556 เพาเวอร์มอลล์จะมีการเติบโตเพียง 4% ต่ำกว่าเป้าหมายที่วางไว้
“ตลาดทีวีดิจิตอลถือเป็นตลาดที่สำคัญมาก ถ้าเทียบไทยกับต่างประเทศ จะพบว่าบางประเทศตลอดขายทีวีดิจิตอลสูงถึง 50% โดยปัจจุบันำตลาดทีวีในไทยมีมูลค่าอยู่ที่ประมาณ 40,000 ล้านบาท เชื่อว่าเมื่อ กสทช.มีความชัดเจนเกี่ยวกันเรื่องนี้ดิจิตอลทีวีแล้ว คาดว่าในช่วงไตรมาส 3 ปี 2556 นี้ ตลาดทีวีจะกลับมามีความคึกคักมากขึ้น และส่งผลต่อความชื่อมั่นในการซื้อทีวีของผู้บิโภคอย่างแน่นอน”นายจักรกฤษณ์ กล่าว
สำหรับแผนการทำตลาดของเพาเวอร์มอลล์หลังจากนี้ จะมุ่งเน้นการสร้างกิจกรรมเพื่อกระตุ้นการซื้อสินค้าของผู้บริโภค โดยการร่วมกับพันธมิตรกว่า 200 ราย จัดงาน “POWER MALL ELECTRONICA SHOWCASE” นำสินค้าเครื่องเสียง เครื่องใช้ไฟฟ้า และสินค้าไอที มาจำหน่ายในราคาลดสูงสุด 36% เพื่อจูงใจผู้บริโภค ซึ่งงานจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 26 มิถุนายน-7 กรกฎาคม 2556 ที่รอยัลฮออลล์ ชั้น 5 สยามพารากอน คาดว่าจะมียอดขายในงานประมาณ 370 ล้านบาท
“เพาเวอร์มอลล์มีการจัดงาน ELECTRONICA SHOWCASE ทุกปี ซึ่งในปี 2556 นี้ก็เช่นเดียวกัน โดยสินค้าเด่นที่จะมีการนำมาเสนอในงานนี้ คือ สินค้ารุ่นใหม่ของกลุ่มทีวีโดยเฉพาะทีวีที่รองรับระบบดิจิตอลกว่า 40 รุ่น จากแบรนด์ต่างๆ กลุ่มสินค้าเครื่องเสียงระดับหรูจากแบรนด์ชั้นนำ 15 แบรนด์ เป็นต้น”นายจักรกฤษณ์ กล่าว
ส่วนภาพรวมของธุรกิจเครื่องไฟฟ้า เครื่องเสียงและไอที ในปี 2556 นี้ การแข่งขันปัจจุบันไม่ได้แข่งขันในเรื่องราคาเท่านั้น แต่อยู่ที่การทำโปรโมชั่นพิเศษและที่สำคัญขี้นอยู่กับว่าใครสามารถนำกระแสความใหม่ของสินค้ามาตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้เร็วและดีกว่ากัน
ที่มา : [urlx=http://www.naewna.com/business/57113]www.naewna.com[/urlx]