เช็คขีดคร่อมและเช็คไม่ขีดคร่อมมีความหมายว่าอย่างไรเช็คขีดคร่อม หมายถึง เช็ค ที่เขียนเส้นขนานคู่ขีดขวางไว้ด้านหน้าเช็ค เป็นการแสดงให้ธนาคารรับฝากเข้าบัญชีของผู้ทรงเช็คเท่านั้น ผู้ทรงเช็คหมดสิทธิ์ที่จะขอเบิกเงินสดจากธนาคาร
ผู้ทรงเช็คขีดคร่อมจึงไม่สามารถนำเช็คมาขอเบิกเงินสดตามเช็คนั้นได้ในทันที จะต้องนำฝากเข้าบัญชีเงินฝากของตนที่ได้เปิดไว้กับธนาคารแล้วให้ธนาคารผู้รับฝากเป็นผู้ไปเรียกเก็บเงินให้เท่านั้น
เช็คไม่ขีดคร่อม หมายถึง เช็ค ที่ผู้ทรงเช็คสมารถนำมาขอเบิกเงินสดตามเช็คจากธนาคารได้เลย
คิดว่าพอจะทราบความหมายกันแล้วว่า เช็คทั้ง 2 ชนิดนี้ นิยมใช้พอ ๆ กัน แต่ถ้าในทางธุรกิจแล้วจะนิยมใช้เช็คขีดคร่อมกันมากกว่า
เช็คไม่ขีดคร่อม ไม่มีรายละเอียดที่ซับซ้อนมากนัก การใช้เช็คชนิดนี้ให้พิจารณาให้ถูกต้องตามเงื่อนไขของกฎหมายเรื่องเช็คทั่ว ๆ ไป
เช็คขีดคร่อม และมีข้อความ A/c Payee Only หมายความว่า เช็คฉบับนี้ไม่อาจโอนต่อไปได้ด้วยการสลักหลัง การนำฝากเข้าบัญชีธนาคารก็ต้องนำฝากเข้าบัญชีของผู้ที่มีชื่อระบุไว้ที่ด้านหน้าเช็คเท่านั้น (การขีดคร่อมแบบนี้ห้ามนำไปใช้กับเช็คจ่ายผู้ถือที่ไม่ระบุชื่อผู้รับเงินหรือเช็คจ่ายผู้ถือทีเขียนคำว่า “ เงินสด” ไว้ที่ช่องว่าง “ จ่าย………………หรือผู้ถือ ” ถ้าขีดคร่อมเช็ค"จ่ายผู้ถือ" แบบนี้แล้วนำเช็คไปฝากเข้าบัญชีธนาคาร ธนาคารจะปฏิเสธการรับฝากทันที เพราะไม่มีชื่อตามบัญชีที่ด้านหน้าเช็ค หรือกรณีเขียนระบุ “เงินสด” ธนาคารจะปฏิเสธการรับฝากเช่นกัน เพราะคำว่า “เงินสด”ไม่ใช่ชื่อคน และยังทำให้เช็คฉบับนี้เสียไปเลย เพราะจำนำไปเบิกเงินสดอย่างเช็คจ่ายผู้ถืออีกไม่ได้ )
เช็คขีดคร่อม 1.jpg
ถ้าขีดเส้นสองเส้นในแนวขนานไว้เฉย ๆ โดยไม่เขียนอะไร หมายความว่า เช็คฉบับนี้จะนำมาขอเบิกเงินสดไม่ได้ ต้องนำฝากเข้าบัญชีธนาคารเท่านั้น ไม่ว่าจะเป็นเช็ค “ จ่ายผู้ถือ “ หรือเช็ค “ จ่ายตามคำสั่ง
เช็คขีดคร่อม 2 .jpg
การออกเช็คที่เป็นความผิดทางอาญา การออกเช็คโดยไม่ระมัดระวัง ในบางครั้งอาจมีความผิดในทางอาญาได้ เรื่องนี้ได้บัญญัติไว้ชัด ในพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2534 มาตรา 4 ซึ่งบัญญัติไว้ดังนี้
“ มาตรา 4 ผู้ใดออกเช็คเพื่อชำระหนี้ที่มีอยู่จริงและบังคับได้ตามกฎหมาย โดยมีลักษณะหรือมีการกระทำอย่างใดอย่างหนึ่งดังต่อไปนี้
(๑) เจตนาที่จะไม่ให้มีการใช้เงินตามเช็คนั้น
(๒) ในขณะที่ออกเช็คนั้นไม่มีเงินอยู่ในบัญชีอันจะพึงให้ใช้เงินได้
(๓) ให้ใช้เงินมีจำนวนสูงกว่าจำนวนเงินที่มีอยู่ในบัญชี อันจะพึงให้ใช้เงินได้ในขณะที่ออกเช็คนั้น
(๔) ถอนเงินทั้งหมดหรือแต่บางส่วนออกจากบัญชีอันพึงให้ใช้เงินตามเช็คจนจำนวนเงินเหลือไม่เพียงพอที่จะใช้เงินตามเช็คนั้นได้
(๕) ห้ามธนาคารมิให้ใช้เงินนั้นโดยเจตนาทุจริต
เมื่อได้มีการยื่นเช็คเพื่อให้ใช้เงินโดยชอบด้วยกฎหมาย ถ้าธนาคารปฏิเสธไม่ใช้เงินตามเช็คนั้น ผู้ออกเช็คมีความผิดต้องระวางโทษปรับไม่เกินหกหมื่นบาท หรือจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือทั้งปรับทั้งจำ “
ข้อมูลท้้งหมดที่ยกตัวอย่างมาเป็นเพียงส่วนหนึ่ง ที่คุ้นเคยกันเป็นอย่างดี
หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม :
http://www.junghoo.com/index.php?lay=sh ... 39&Ntype=3